RIP

   
 
| Home | Introduction | Theory | Treatment | Result | Reference | About Us |
   
 

 

 

สรุปผลการทดลอง

กรณีปกติ -> View Packet

 

ใช้  Web X Ray จับ Packet ที่อยู่ระหว่าง IP 108.10.1.1 และ IP 108.10.1.2

Packet 1 มีการส่ง message ที่เป็น Request ออกไปโดย IP 108.10.1.2 เพื่อทำการขอข้อมูลจาก Router ตัวอื่น ๆ

Packet 2 เป็นการส่ง Request จาก IP เดิม เนื่องจากไม่มีการตอบสนองจาก Router ตัวอื่น ๆ   เป็นเวลาประมาณ 30  วินาที

Packet 3 เป็น message ที่เป็น Respond ที่มาจาก IP 108.10.1.2 ส่งไปยัง IP 108.10.1.1 เพื่อประกาศค่าใน Routing Table

ของตัวเองว่า ระยะที่จะไปยังเครือข่าย 11.10.2.0 มีค่า Metric = 2

Packet 4 เป็น Message ที่ส่งจาก IP 108.10.1.1 ทำการ Broadcast เส้นทางที่ไปยังเครือข่าย11.10.2.0 ซึ่งจะทำการบวกค่าของ Metric ที่ได้จาก Packet 3 ดังนั้น ค่า Metric จาก IP 108.10.1.1 ไปยังเครือข่าย 11.10.2.0 จะมีค่า Metric = 3

Packet 5 เป็น Respond ที่มาจาก IP 108.10.1.2 เป็นการส่งขอ้มูลใน Table ออกมาเนื่องจากถึงช่วงเวลาที่เป็นจังหวะส่งของตัวเองหลังจากส่ง Packet 3 เป็นเวลาประมาณ 30 วินาท

Packet 6 เมื่อถึงจังหวะการส่งของ  IP 108.10.1.1 ก็ทำการส่งข้อมูลใน Table ตัวเองออกไปซึ่ง ขณะนี้มีการ Update ข้อมูลของเครือข่าย 10.10.1.0 มีค่า Metric = 2 และ เส้นทางไปยัง เครือข่าย 11.10.2.0 มีค่า Metric = 3

Packet 7 IP 108.10.1.2 มีการส่งข้อมูลที่เป็นของตัวเอง ซึ่งได้รับค่ามาจาก Packet 6 ว่ามีเส้นทางที่ไปยังเครือข่าย 10.10.1.0 Metric = 2 ดังนั้น จึงทำการ Update Table องตัวเองให้มีเส้นทางไปยังเครือข่าย 10.10.1.0 ให้ Metric = 3 และเส้นทางไปยัง เครือข่าย 11.10.2.0 มีค่า Metric= 2

Packet 8 – Packet 12 เป็น Respond ของทั้ง IP 108.10.1.1 และ  IP 108.10.1.2 ซึ่งอยู่ในสภาวะคงที่ คือมีเส้นทางทั้งหมดในเครือข่าย แล้วทำการส่ง Message ออกมาทุก ๆ 30 วินาท  ดังนั้นข้อมูลใน Packet จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่าใดๆ

 

 

 

กรณี Split Horizon -> View Packet

 

ช้ Web X Ray จับ Packet ที่ส่งระหว่าง Rourter ทั้ง 2 ตัว

Packet 1 เป็นการส่ง Request จาก IP 10.10.1.1

Packet 2 IP 10.10.1.1 ประกาศค่าใน Table ที่มีเส้นทางไปยัง เครือข่าย 108.10.0.0 มี Metric= 2

Packet 3 เป็นการประกาศเส้นทางเมื่อถึงจังหวะเวลาของ IP 10.10.1.1 ดังนั้นข้อมูลที่ส่งออกมาจะเหมือนใน Packet 2

Packet 4 เป็นการประกาศเส้นทางของ IP 10.10.1.1 ซึ่งประกอบด้วย เส้นทางไปยัง เครือข่าย 108.10.0.0 ยังคงมีค่า Metric = 2 และเส้นทางไปยัง เครือข่าย 11.10.2.0 มีค่า Metric =3

Packet 5 – Packet 11 เป็นการประกาศค่าของ IP 10.10.1.1 เช่นเดิมโดยจะประกาศทุก 30 วินาทีโดยประมาณ

จะเห็นว่าในผลการทดลองครั้งนี้ ไม่มีการประกาศเส้นทางมาจากทาง  router ที่เป็น IP 108.10.1.1  เนื่องจากเป็นการทำงานแบบ

Split Horizon  คือเมื่อ IP 10.10.1.1 ส่งเส้นทางมายัง  เครือข่าย 108.10.1.0  แล้ว ทาง

IP 108.10.1.0 จะไม่ทำการส่งข้อมูลของเส้นทางที่เคยได้รับมากลับไปยัง เส้นทางเดิม

 

 

กรณี Split Horizon Poison Reverse -> View Packet

 

ใช้ Web X Ray จับ Packet ที่ส่งระหว่าง Router ทั้ง 2 ตัว โดยการส่ง Packet จะเป็นลักษณะของ Split Horizon with Poision Reverse

Packet 1 เป็น Request ที่ส่งจาก IP 130.147.220.2 เพื่อขอข้อมูลใน Table ของ Router ตัวอื่นๆ

Packet 2 เป็น Request ที่ส่งจาก IP 130.147.220.1

Packet 3 – Packet 4 เป็น Respond ที่ส่งจาก IP 130.147.220.2 ไปยัง IP 130.147.220.1

เพื่อ แจ้งเส้นทางที่ไปยังเครือข่าย 130.147.221.0 มีค่า Metric = 2

Packet 5 เป็นการส่งข้อมูลกลับมายังเส้นทางเดิมคือ IP 130.147.220.1 ทำการส่งข้อมูลที่ไปยังเครือข่าย 130.147.221.0 โดยกำหนดค่า Metric = 16 และ Next Hop มีค่าเป็น 130.147.220.2 ซึ่งจะไม่มีผลต่อการ Update ค่าของ Routing Table ใน router IP 130.147.220.2 และเป็นการป้องกันการเกิดการ Counting Loop

Packet 6 – Packet 10 เป็น Packet ที่ทั้ง 2 Router ส่งหากันเพื่อ Update Table ซึ่ง IP 130.147.220.2 ยังคงประกาศค่า Metric ที่ไปยังเครือข่าย 130.147.221.0 มีค่าเท่ากับ 2 และ IP 130.147.220.1 ก็จะประกาศค่าของเส้นทางดังกล่าวย้อนกลับด้วย Metric = 16

 

กรณี Tigger Update -> View Packet

 

ใช้ Web X Ray จับ Packet ในเครื่องข่าย 11.10.2.0

Packet 1 เป็น Request จาก IP 11.10.2.1 เพื่อขอข้อมูลใน Routing Table

Packet 2 เป็น Respond ที่ส่งจาก IP 11.10.2.1 เพื่อประกาศเส้นทางที่มีอยู่ใน Table ของตัวเอง

จาก Packet บอกให้ทราบว่า ไม่มีเส้นทางไม่ยังเครือข่าย 10.10.1.0 ดังนั้น Metric = 16

Packet 3 IP 11.10.2.1 ส่งเส้นทางออกมาโดยมีการ Update เส้นทางที่ไปยังเครือข่าย

108.10.0.0 มีค่า Metric = 2 และยังคงไม่มีเส้นทางไปยังเครือข่าย 10.10.1.0

Packet 4 – Packet 5 ไม่มีการ Update ข้อมูลใดๆ ใน Routing Table ของ IP 11.10.2.1

Packer 6 เป็นการ Respond ข้อมูลของ IP 11.10.2.1 ซึ่งมีเส้นทางไปยังเครือข่าย 10.10.1.0 ค่า Metric =3 จากข้อมูลใน Packet นี้จะเห็นว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่าใน Routing Table แล้วจะไม่รอเวลา 30 วินาที เพื่อที่จะส่ง Packet ออกไป แต่จะทำการส่งออกไปได้ทันที ดูได้จากระยะห่างของเวลาการส่ง Packet 5 กับ Packet 6 ประมาณ 16 วินาที ซึ่งเป็นหลักการของ

Trigger Update

Pack 7 – Pack 14 เป็นการส่งข้อมูลตามจังหวะเวลาการส่งของแต่ละ Router โดย Routing

Table อยู่ในสภาวะเสถียรแล้วคือไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่าใด ๆ