|
|
Distance Vector Algorithms
Algorithms นี้จะถูกนำมาใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีขนาดเล็ก
โดยที่อยู่ในระบบเดียวกัน โดยรายละเอียดที่เก็บจะอธิบายถึงเส้นทางที่ไปยังปลายทางนั้น
ๆ นอกจากนี้ ในตารางเส้นทางของเกตเวย์ยังรวมถึงเกตเวย์ถัดไปที่ Datagram
ควรจะส่งออกไป และค่า Metric ที่บอกผลรวมระยะทางที่ไปยังเกตเวย์นั้นๆ
สำหรับข้อมูลที่จะถูกนำมาเก็บไว้ในตารางเส้นทางสำหรับทุกๆ คอมพิวเตอร์ปลายทางที่เป็นไปได้ทั้งหมดในระบบมีดังนี้ 1. IP Address ปลายทาง 2. IP Address ของเกตเวย์ถัดไปที่จะไปยังปลายทาง 3. Physical Network Interface ที่ใช้เพื่อเข้าถึงเกตเวย์แรก 4. Metric เป็นค่าที่บ่งบอกระยะทางที่จะไปถึงปลายทาง 5. Timer คือเวลาที่บอกว่าข้อมูลใน
ตารางเส้นทางนี้ถูกปรับปรุงครั้งสุดท้าย RIP
ใช้ Distance
Vector Algorithm เพื่อกระจายข้อมูลที่เกี่ยวกับเส้นทางและส่งข้อมูลแบบกระจาย
โดยแต่ละเกตเวย์จะมีการเซตเวลาในการกระจายข้อมูลใน
Routing Table
ของตัวเองไปยังเกตเวย์ที่อยู่บนเครือข่ายอื่นๆ เมื่อมี
RIP
Update Message มาถึงฝ่ายรับ R จะทำการตรวจสอบข้อมูลแต่ละชุด
และนำมาเปรียบเทียบกับชุดข้อมูลที่มีอยู่
คอมพิวเตอร์ปลายทางแทนด้วย
D โดยฝ่ายรับจะถามค่า
Cost จาก R ที่ไปยัง G มีค่าเป็นเท่าไร แล้วนำค่าที่ได้บวกกับค่า
Cost
จาก G ไปยัง
D โดยแทนได้ด้วยสมการคณิตศาสตร์ดังนี้
Cost(i,j)
คือค่าระยะทางจาก
i ไป j ซึ่งถ้าค่าที่ได้น้อยกว่าค่าที่มีอยู่เดิม
ฝ่ายผู้รับ , R จะทำการปรับปรุงข้อมูลในตารางเส้นทางของตัวเอง
โดยค่า Cost ใหม่จะมีค่าเท่ากับ Cost(R,G)
= Cost(R,G) +Cost(G,D) นั่นคือการคำนวณค่า
Metric
ที่ดีที่สุดอธิบายในรูปสมการได้ดังนี้ D(i,j) = 0 ,
สำหรับทุกค่า i D(i,j)
= Min[D(i,k)+D(k,j)]
, สำหรับค่าอื่นๆ ค่าเริ่มแรกในการทำงาน ค่า
D(i,j)
จะมีค่าเป็น 0 เมื่อ i = j สำหรับค่าอื่นๆทุก
D(i,j) มีค่าเป็น -1
|